วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของการพัฒนาบุคลิกภาพ

1. สร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรงตลอดเวลา ด้วยการออกกำลังกาย
2. ทำให้ร่างกายมีบุคลิกภาพที่ดีคล่องแคว่งว่องไว และสง่าผ่าเผย
3. เป็นผู้ที่มีความร่าเริง จิตใจแจ่มใส อารมณ์ดี
4. มีกิริยามารยาท และพูดจาด้วยถ้อยคำที่สุภาพเป็นเสน่ห์กับผู้พบเห็น
5. เป็นผู้ที่มีเหตุผลไม่วู่วาม มีความสุขุมรอบคอบ มีสติ และควบคุมตัวเองได้
6. มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีความอดทน ต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคได้
7. ยอมรับความเป็นจริงของโลกมนุษย์ ซึ่งประกอบไปด้วยสุขและทุกข์
8. มีความเชื่อมั่นในตัวเอง กล้าคิดกล้าทำ กล้าแสดงออก หรือกล้าตัดสินใจ โดยอาศัยหลักการและเหตุผล
9. มีความคิดใฝ่หาความก้าวหน้าในการทำงาน มีความคิดริเริ่มและมีความกระตือรือร้น มีน้ำใจและเอื้ออาทรผู้อื่น
10. ปรับปรุงตนเองให้เข้ากับสังคม และสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี และสมารถสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับบุคลรอบข้างได้อย่างมีความสุข
   การพัฒนาบุคลิกภาพในวิชาชีพจริยธรรมในอาชีพคอมพิวเตอร์ ผู้เรียนจะได้รับสิ่งดีๆ ตอบแทน ดังนี้
1. ได้รับการพิจราณาเข้าทำงานจากสถานประกอบการได้งานกว่าบุคคลอื่น
2. สร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองในการอยู้ร่วมกันในสังคม
3 สร้างบุคลิกและละกษณะนิสัยที่ดีแก่ผู้พบเห็น
4. มีความเข้าใจและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต
5. สร้างความกระตือรือร้น และใฝ่ดีตลอดเวลา
6. มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน
7. มีความสุขต่อการทำงานและในชีวิตประจำวัน
8. สร้างความเข้าใจกับบุคลอื่นๆ มีความโอบอ้อมอารี
9. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ด้วยหลักการและเหตุผล
10. สร้างความหวังและกำลังใจให้ตนเอง
    ปัจจุบันสุขภาพมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตและการทำงานของทุกคน รัฐบาลสมัย พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชันวัตร จึงได้ประกาศนโยบายและเป้าหมาย ''เมืองไทยแข็งแรง'' โดยรัฐบาลมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้คนไทยอยู่เย็นเป็นสุขทั้งกาย ใจ สังคม และปัญญา สามารถดำรงชีพบนพื้นฐานความพอดีพอประมาณอย่างมีเหตุผล ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิงพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสำเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีครอบครัวที่อบอุ่น มั่งคง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และช่วยเหลือเกื้อกูล มีสัมมาอาชีพทั่วถึง มีรายได้ มีสุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาว เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีเป้าหมายร่วมกันในการนำพาทุกชุมชนของประเทศไทยสู่การเป็นเมืองไทยแข็งแรงภายในปีพุทธศักราช 2560 ซึ่งเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระชนมายุครบ 90 พรรษา จึงขอประกอบวาระแห่งชาติสู่การเป็น '' เมืองไทยแข็งแรง '' 17 เป้าหมายคือ
1. คนไทยมีความฉลาดทางสติปัญญา ( I.Q. ) และความฉลาดทางอารมณ์ ( E.Q. ) เพิ่มมากขึ้นในระดับที่ต้องม่ายต่ำกว่าเกณฑ์มาตราฐานสากล
2. คนไทยที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไป ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพในทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกชุมชน ทุกหน่วยงานและสถานประกอบการ
3. คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาในระบบโรงเรียนไม่น้อยกว่า 12 ปี และมีโอกาศเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและเกิดทักษะทางสุขภาพ ( Health Skill ) และทักษะการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสม ( Like Skill )
4. คนไทยมีครอบครัวที่อบอุ่น เด็กและผู้สูงอายุได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว
5. คนไทยมีอายุขัยเฉลี่ยยืนยาวพร้อมสุขภาพที่ข็งแรง อัตราการป่วยและตายด้วยโรคที่เป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของคนไทยลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเอดส์ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไข้เลือดออก โรคในช่องปาก และโรคเบาหวาน
6. คนไทยทุกคนมีหลักประกันการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ได้มาตรฐาน
7. คนไทยได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการ และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จากแหล่งผลิตอาหารที่ปลอดสารพิษปนเปื้อน ตลาดสด ร้านอาหาร และแผงลอยจำหน่วยอาหารทุกแห่งได้มาตรฐานสุขภาพอนามัย สถานที่ผลิตอาหารทุกแห่งผ่านเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี (GMP )
8. คนไทยลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกฮอล์และยาสูบ
9. คนไทยมีอัตราการบาดเจ๊บและตายด้วยอุบัตืเหตุน้อยลง
10. คนไทยมีอัตราการฆ่าตัวตาย ตลอดจนการป่วยด้วยโรคทางจิต ประสาท ลดน้อยลง
11. คนไทยมีความปลอดภัยจากอาชญากรรมและความรุนแรงที่ก่อให้เกิดการประทุษร้านต่อชีวิตร่างกายและจิตใจ การประทุษร้ายทางเพศ และการประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน
12. คนไทยมีสัมนาอาชีพและมีรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข
13. คนไทยที่มีที่อยู่อาศัยที่ถูกสุขลักษณะ มีน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคเพียงพอ และดำรงชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี
14. คนไทยลด ละ เลิดอบายมุขและสิ่งเสพติด
15. คนไทยมีความรู้รักสามัคคี มีความอาทรเกื้อกูลกัน
16. คนไทยมีสติและปัญญาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งรุนแรงต่างๆ ด้วยเหตุผลและด้วยสันติวิธี
17. คนไทยยึดมั่นในหลักศาสนาแวฒนธรรมที่ดีงาม
    การทำงานในสำนักงานหรือองค์กรจะทำงานคนเดียวไม่ได้ จะต้องทำงานร่วมกับบุคคลอื่นเราเรียกว่า การทำงานเป็นทีม มีความสำคัญในทุกองค์กร การทำงานเป็นทีม เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเพิ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการบริหารงาน การืงานเป็นทีมมีบทบาทสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของงานในทุกหน่วยงานที่อาศัยความร่วมมือของกลุ่มบุคคลเป็ยอย่างดี
   ลักษณะของทีม หมายถึง สัมพันธ์ภาพของบุคคล 2 คนขึ้นไป ที่มีจุดมุ่งหมายและเป้าหมายร่วมกัน ลักษณะที่สำคัญของการทำงานเป็นทีมมี 4 ประการ ได้แก่
1. การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของบุคคล หมายถึง การมีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมีความเกี่ยวข้องกันในกิจการของกลุ่ม/ทีม ตระหนักในความสำคัญของกันและกัน แสดงออกซึ่งการยอมรับการให้เกีรยติกันสำหรับกลุ่มขนาดใหญ่มักมีปฏิสัมพันธ์กันเป็นเครือข่ายมากกว่าการติดต่อกันตัวต่อตัว
2. มีจุดมุ่งหมายและเป้าหมายร่วมกัน หมายถึง การที่สมาชิกกลุ่มจะมีส่วนกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมร่วมการในกลุ่ม/ทีม โดยเฉพาะจุดประสงค์ของสมาชิกกลุ่มที่สอดคล้องกับองค์กร มักจะนำมาซึ่งความสำเร็จของการทำงานได้ง่าย
3. การมีโครงการของทีม/กลุ่ม หมายถึง ระบบพฤติกรรมซึ่งเป็นแบบแผนเฉพาะกลุ่มสมาชิกกลุ่มจะต้องปฏิบัติตามกฏหรือมติของกลุ่ม ซึ่งอาจเป็กลุ่มแบบทางการ ( Formal Group ) หรือ กลุ่มแบบไม่เป็นทางการ ( Informal Group ) ก็ได้ สมาชิกทุกคนของกลุ่มจะต้องยอมรับและปฏิบีติตามเป็นอย่างดี สมาชิกกลุ่มย่อมอาจจะมีกฏเกณฑ์แบบไม่เป็นทางการ มีความสนิทสนมกันอย่างใกล้ชิดระหว่งาสมาชิกด้วยการ
4. สมาชิกมีบทบาทและมีความรู้สึกร่วมกัน การรักษาบทบาทที่มั่งคงในแต่ละทีม/กลุ่ม จะมีความแตกต่างลักษณะของกลุ่ม รวมทั้งความรู้ความสามารถของสมาชิก โดยมีการจัดแบ่งบทบาทและหน้าที่ ความรับผิดชอบ กระจายงานตามความรู้ ความสามารถ และความถนัดของสมาชิก

ที่มา จริยธรรมในอาชีพคอมพิวเตอร์
ผู้แต่ง  ทรงศักดิ์ แก้วอ่อน กศ.บ.( ธุรกิจศึกษา ) , ค.บ. ( คอมพิวเตอร์ศึกษา ) ค.อ.ม. ( บริหารอาชีวะและเทคนิคศึกษา )
            

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น